ไม่พบผลลัพธ์
เราไม่พบอะไรกับคำที่คุณค้นหาในตอนนี้, ลองค้นหาอย่างอื่นดู
เครื่องคำนวณสมการกำลังสองคือเครื่องมือสำหรับแก้สมการกำลังสองที่มีคำตอบเป็นรากจำนวนจริงและรากเชิงซ้อน
ax2+bx+c=0
x =
-
6
11
±
√19i
11
เกิดข้อผิดพลาดกับการคำนวณของคุณ
เครื่องคำนวณนี้ทำให้การแก้สมการกำลังสองเป็นเรื่องง่าย ในวิชาพีชคณิตนั้น สมการใดก็แล้วแต่ที่เราสามารถเขียนให้อยู่ในรูปต่อไปนี้ได้ เราจะเรียกว่าสมการกำลังสอง
ax²+bx+c=0
โดยที่
a≠0
หากต้องการใช้เครื่องคำนวณสมการกำลังสอง ให้คุณกรอกค่า A, B, และ C และกดปุ่ม “คำนวณ” A จะต้องไม่เป็นศูนย์ แต่ B และ C จะเป็นศูนย์ก็ได้ เครื่องคำนวณจะใช้สูตรกำลังสองเพื่อหาคำตอบของสมการ ไม่ว่าจะมีรากเป็นจำนวนจริงหรือมีรากเชิงซ้อนก็ตาม หลังจากนั้นเครื่องคำนวณจะทำการลดรูปรากให้ได้คำตอบที่ง่ายที่สุด
แต่ก่อนที่จะใช้สูตรสูตรกำลังสองนี้ได้นั้น คุณต้องเขียนสมการให้อยู่ในรูป ax²+bx+c=0 เสียก่อน จากนั้นเราจะสามารถหาคำตอบได้ดังนี้
$$x=\frac{-b±\sqrt{b²-4ac}}{2a}$$
สมการส่วนที่อยู่ในรากที่สอง b²-4ac มีชื่อว่าดิสคริมิแนนต์
เครื่องคำนวณสมการกำลังสองจะแสดงคำตอบของสมการที่คุณกรอกเข้ามา พร้อมกับวิธีหาคำตอบ ตลอดจนคำนวณดิสคริมิแนนต์และแสดงให้เห็นว่าเป็นบวก ลบ หรือเท่ากับศูนย์
เรามาแก้สมการกำลังสองกันดีกว่า
2x²+3x-2=0
ในตัวอย่างนี้
a=2,b=3,c=-2.
แทนค่าจำนวนเหล่านี้ในสูตรกำลังสอง เราจะได้
$$x=\frac{-b±\sqrt{b²-4ac}}{2a}=\frac{-3±\sqrt{3^2-4(2)(-2)}}{2(2)}=\frac{-3±\sqrt{9--16}}{4}=\frac{-3±\sqrt{25}}{4}$$
ดิสคริมิแนนต์ของสมการนี้เป็นบวก
b²-4ac=25>0
ดังนั้น สมการจะมีรากจำนวนจริงของราก
ต่อไปเราจะมาลดรูปรากกัน
$$x=\frac{-3±\sqrt{25}}{4}=\frac{-3±5}{4}$$
$$x=\frac{-3+5}{4}\ \ \ และ\ \ \ x= \frac{-3-5}{4}$$
$$x=\frac{2}{4}\ \ \ และ\ \ \ x=-\frac{8}{4}$$
$$x=\frac{1}{2}\ \ \ และ\ \ \ x=-2$$
สุดท้าย
x=0.5
x=-2
เรามาแก้สมการกำลังสองกันดีกว่า
x²+2x+5=0
ในตัวอย่างนี้
a=1,b=2,c=5
แทนค่าจำนวนเหล่านี้ในสูตรกำลังสอง เราจะได้
$$x=\frac{-b±\sqrt{b²-4ac}}{2a}=\frac{-2±\sqrt{2^2-4(1)(5)}}{2(1)}=\frac{-2±\sqrt{4-20}}{2}=\frac{-2±\sqrt{-16}}{2}$$
ดิสคริมิแนนต์ของสมการนี้เป็นลบ
b²-4ac=-16<0
ดังนั้น สมการจะมีรากเชิงซ้อนสองราก
ต่อไปเราจะมีลดรูปรากกัน
$$x=\frac{-2±\sqrt{-16}}{2}=\frac{-2±4i}{2}=\frac{-2}{2}±\frac{4i}{2}=-1±2i$$
สุดท้าย
x=-1+2i
x=-1-2i
เรามาแก้สมการกำลังสองกันดีกว่า
3x²+6x+3=0
ในตัวอย่างนี้
a=3,b=6,c=3
แทนค่าจำนวนเหล่านี้ในสูตรกำลังสอง เราจะได้
$$x=\frac{-b±\sqrt{b²-4ac}}{2a}=\frac{-6±\sqrt{6^2-4(3)(3)}}{2(3)}=\frac{-6±\sqrt{36-36}}{6}=\frac{-6±\sqrt0}{6}$$
ดิสคริมิแนนต์ของสมการนี้เท่ากับศูนย์ b²-4ac=0 สมการจึงมีเพียงรากเดียว
$$x=\frac{-6}{6}$$
สุดท้าย
x=-1
ดังที่แสดงไว้ข้างต้น เราสามารถใช้สูตรกำลังสองไปแก้สมการกำลังสองสมการไหนก็ได้ ไม่ว่าดิสคริมิแนนต์จะเป็นบวก ลบ หรือศูนย์ก็ตาม ต่อไปเราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับที่มาของสูตรกำลังสองกัน การเข้าใจหลักการพื้นฐานของการพิสูจน์สูตรทางคณิตศาสตร์นั้นมีประโยชน์อย่างมากถ้าคุณลืมสูตรไป
ขั้นตอนในการหาสูตรกำลังสองนั้นก็ไม่ได้มีอะไรมาก หลักการก็มาจากวิธีแก้สมการโดยการทำกำลังสองสมบูรณ์ ในการหารูปมาตรฐานของสมการกำลังสองหรือ ax²+bx+c=0 นั้น คุณต้องปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้
ax²+bx+c=0
ย้ายค่าคงที่ C ไปด้านขวาของสมการ
ax²+bx=-c
$$x²+\frac{b}{a}x=-\frac{c}{a}$$
$$(\frac{b}{2a})^2$$
ทั้งสองด้านของสมการ
$$x²+\frac{b}{a}x+(\frac{b}{2a})^2=-\frac{c}{a}+(\frac{b}{2a})^2$$
x²+2dx+d²
เราสามารถเขียนสมการนี้ให้อยู่ในรูปต่อไปนี้ได้
(x+d)²
ในสมการของเรานั้น d ก็คือ
$$\frac{b}{2a}$$
ดังนั้น
$$x²+\frac{b}{a}x+(\frac{b}{2a})^2 = \left(x+\frac{b}{2a}\right)^2$$
แทนค่าสมการนี้เข้าไปในด้านซ้ายของสูตรของเรา ยังไม่ต้องไปแตะต้องด้านขวา
$$\left(x+\frac{b}{2a}\right)^2=-\frac{c}{a}+(\frac{b}{2a})^2$$
สมการมีราก x อยู่เพียงตัวเดียวเท่านั้นในตอนนี้
$$x+\frac{b}{2a}=± \sqrt{-\frac{c}{a}+(\frac{b}{2a})^2}$$
$$x=-\frac{b}{2a}± \sqrt{-\frac{c}{a}+(\frac{b}{2a})^2}$$
$$\frac{2a}{2a}$$
$$x=\frac{-b ± \sqrt{-\frac{c}{a} × (2a)^2 + (\frac{b}{2a})^2 × (2a)^2}}{2a}$$
$$x=\frac{-b±\sqrt{-4ac+b²}}{2a}$$
$$x=\frac{-b±\sqrt{b²-4ac}}{2a}$$
$$\frac{-b}{a}$$
ดังนั้น ถ้าดิสคริมิแนนต์ของสมการกำลังสอง b²-4ac เท่ากับศูนย์ เราจะหารากเพียงรากเดียวของสมการได้
$$\frac{-b}{2a}$$
$$\frac{c}{a}$$
คำว่า "quadratic" (กำลังสอง) มาจากคำว่า "quadratus" ในภาษาละติน ซึ่งแปลว่า "ยกกำลังสอง" เราเรียกสมการประเภทนี้ว่าสมการกำลังสองเพราะกำลังที่สูงที่สุดของตัวแปรคือกำลัง 2
สูตรกำลังสองในรูปอย่างที่เราใช้กันในปัจจุบันมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 628 โดยนักคณิตศาสตร์ชาวอินเดียชื่อว่าบรามากุปตาเป็นผู้อธิบายด้วยคำพูด เขาไม่ได้ใช้สัญลักษณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น สมการประเภทนี้มีคำตอบสองคำตอบ แต่บรามากุปตากล่าวถึงคำตอบเดียวเท่านั้น เขาไม่ได้กล่าวถึงสัญลักษณ์ที่สำคัญ หรือ ± ที่อยู่ด้านหน้ารากที่สองไว้ด้วย
กราฟของฟังก์ชันกำลังสอง y=ax²+bx+c เป็นรูปพาราโบลา คำตอบหรือรากของสมการกำลังสองก็คือพิกัดของจุดที่กราฟตัดกับแกน x นั่นเอง ถ้าสมการมีรากจำนวนจริงสองราก ก็แปลว่ากราฟตัดกับแกน x สองครั้ง ถ้ามีเพียงรากเดียว ก็แปลว่ากราฟพาราโบลาสัมผัสกับแกน x เพียงครั้งเดียวที่จุดสูงสุดหรือต่ำสุดของมัน ถ้าสมการไม่มีรากจำนวนจริง แปลว่าพาราโบลาไม่ได้ตัดกับแกน x เลย
เมื่อสัมประสิทธิ์ A ที่ติดกับพจน์กำลังสองเข้าใกล้ศูนย์ กราฟของพาราโบลาจะแบนมากขึ้น จนในที่สุดก็จะกลายเป็นเส้นตรง เมื่อ a=0 สมการจะกลายเป็นสมการเชิงเส้น กราฟจะกลายเป็นเส้นตรงอย่างชัดเจน!
เมื่อ a>0 พาราโบลาจะหันขึ้น ถ้า a<0 พาราโบลาจะหันลง ถ้า a=0 พาราโบลาจะแบนหรือเป็นเส้นตรง
สมการกำลังสองถูกนำไปประยุกต์ใช้ในวิทยาศาสตร์หลายแขนง เช่น เราใช้สมการกำลังสองเพื่ออธิบายการเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์ในฟิสิกส์ได้